• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตู้คอนโทรลไฟฟ้า คืออะไร

Started by Prichas, August 17, 2023, 11:47:38 PM

Previous topic - Next topic

Prichas

ตู้คอนโทรลไฟ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากมาย เนื่องจากใช้เป็นตัวคอนโทรลกระแสไฟฟ้าทั้งยังระบบ หรือเครื่องจักรต่างต่างๆซึ่งปฏิบัติภารกิจคุมไฟฟ้านั่นเอง ตู้คอนโทรลไฟ ไปยังส่วนต่างๆของเครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆมีหลายแบบ ลูกค้าสามารถประกอบตู้คอนโทรล เอาไว้ภายในงานต่างๆที่ต้องการได้ อย่างเช่น การคอนโทรลมอเตอร์ ควบคุมปั๊มน้ำ และยังประกอบตู้สำหรับใช้คอนโทรลเครื่องจักร ซึ่งแบ่งตู้ได้ตามลักษณะการนำไปใช้งาน และก็ตามขนาด ตู้คอนโทรลไฟ ที่ใช้ในงานซึ่งมีหน้าที่ต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
  • ตู้สวิทซ์บอร์ด หรือ ตู้ MDB (Main Distribution Board) ตู้ MDB เป็นตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าหลัก รูปแบบการทำงานของตู้ MDBเป็นการรับไฟที่ส่งมาจากการไฟฟ้าหรือ ต้านทานเเรงดันต่ำของหม้อเเปลงไฟฟ้าเเล้วจึงจ่ายโหลดไปยังส่วนต่างๆของอาคาร เเละมี Main Circuit Breaker คอยเป็นตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้าทั้งหมดมีเเผงจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ ปกติใช้กันในตึกที่มีขนาดกลางขึ้นไป รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟในจำนวนมาก
  • ตู้เเผงควบคุมกระแสไฟฟ้ารอง หรือ SDB,DB (Sub Distribution Board) ตู้ควบคุมกระแสไฟฟ้ารอง จ่ายกระเเสไฟฟ้าไปตามตู้ PB. (Panel board) หรือ Load Center หลายๆตู้ขึ้นอยู่กับขนาดของตึกลักษณะคล้ายกับ ตู้สวิทซ์บอร์ดเเต่มีขนาดเเละพิกัดของตู้เล็กมากยิ่งกว่า เเละอุปกรณ์ทางไฟฟ้าข้างในก็ลดหลั่นลงมา
  • ตู้ MCC (Motor Control Center) หมายถึง ตู้เเบบวางพื้นที่ประกอบไปด้วยตู้เเนวตั้งเเละเป็นที่รวมของชุดควบคุมมอเตอร์ โดยชุดควบคุมมอเตอร์จะติดตั้งเหนือชุดควบคุมมอเตอร์อื่นๆในเเนวตั้งเเละชุดควบคุมมอเตอร์เหล่านี้จะมีบัสในเเนวตั้งที่ต่อเข้ากับบัสกำลังในเเนวนอน
  • ตู้ PFC (Power-factor-Correction) ในระบบกระแสไฟฟ้ากำลังการปรับปรุงค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ มีความหมายอย่างยิ่ง เนื่องมาจากเป็นตัวที่ทำให้รายจ่ายต่างๆมากขึ้นหรือต่ำลงได้ ระบบไฟฟ้าที่มีค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ต่ำจะมีความสูญเสียในระบบมาก ด้วยเหตุดังกล่าว เครื่องมือที่ประยุกต์ใช้งานจึงควรมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ค่าครองชีพสำหรับในการซื้อเครื่องมือต่างๆมากขึ้น

โดยเหตุนี้การปรับแต่งค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ให้มีค่าสูงขึ้นก็เลยมีความสำคัญต่ออาคารสำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆข้อเท็จจริงในตึกหรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการกำลังไฟฟ้าจริง (Real Power) เเละกำลังไฟฟ้า รีเเอคทีฟ (Reactive - Power) เพื่อใช้ในลัษณะของการทำงาน